3 กรกฎาคม 2557

Notes การใช้งาน Money Management


ตัวอย่าง MM

ทุน 1,000,000
สำรอง 10% = 100,000
เทรด 90% = 900,000
กระจายความเสี่ยง ในหุ้นหลายตัวตามชอบ เช่น 3 ตัว
900,000/3 = 300,000 ต่อตัว
แบ่งไม้เข้า 2 = 70/30% หรือ 3 ไม้ =  50/30/20 %  ของหน้าตัก 300,000
ความเสี่ยง ก็คุมเอา เพราะตอนขาดทุนจะขาดทุนในส่วนของหน้าตัก 70 หรือ 50% ในไม้แรกที่ลงทุนไป
ถ้าไม้แรก ขาดทุนก็เอาเงินที่สำรองมาเติม หลักสำคัญ ห้ามเทรดจำนวณน้อยลง พยายามคุมความเสี่ยงไม่ให้เกิน 10-15% ต่อใม้ เพราะตอนเอาคืนจะลำบาก
ปล ต้องปรับจนเป็นแบบที่เรารับได้และพอใจที่จะเสี่ยงน่ะ 


Data รอ Summary
Update Money Management by ครูหยง ครับ
สำหรับ Futures & หุ้น นี่แล้วแต่ว่าเราจะต้องการแบบนี้หรือไม่
Case หุ้น
ฐานทุน: 1,000,000
สำรอง: (แนะนำ) 15% หรือถ้าบริหารความเสี่ยงได้ดีจะลดเหลือ 10% ก็ได้.
แบ่งทุน: ระหว่าง 7-10 ก้อน อย่างละเท่าๆ กัน.
เริ่มเทรด. โดยหลักการถ้าเราเลือกดี ที่ Valuation ดี ที่ Market sentiment ดี ไม่น่าจะที่โดน Stop ทั้งหมดพร้อมกัน. ดังนั้นทุนสำรองที่ 10-15% ควรจะเพียงพอ.

**สำหรับหุ้นไม่ได้ยากอะไร เทรด Directional ธรรมดา ไม่ต้องทำ Beta neutral ไม่ต้องเร่งหา Alpha ฯลฯ นั่นมันพวกกองทุนฯ เราคือ Retail เราเทรด Directional ธรรมดา ก็เหลือเฟือแล้ว
Case Futures
ฐานทุน: 1,000,000
ถ้าต้องการเทรด TFEX SET50 ด้วย
- TFEX SET50 @ 1,020 จุด x Contract size: 200บ.
- มูลค่าสัญญา (Contract value) เท่ากับ 1,020 x 200 = 204,000บ.
- จะเทรด TFEX SET50 ได้ 1,000,000/204,000 = 4.9 หรือ 5 สัญญา
- เพราะ TFEX ไม่ต้องวางเงินเต็ม เราวางสัก 50% หรือ 102,000 ต่อสัญญา
- จะวางเงิน (Trading margin) ใน TFEX: 102,000 x 5 = 510,000บ.
เราก็จะเหลือ 490,000 ไปลงในหุ้นได้.
สำหรับในหุ้นก็จะเหมือนกับที่อธิบายข้างต้น.

หมายเหตุ
การเทรดแบบ Futures & หุ้น มันจะทำกำไรได้เร็วกว่า แต่นั่นหมายความว่าจะต้องบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่าด้วย. ไม่งั้นอันตรายมากครับ.


แก่นแท้ของ MM or Money Managment
จริงๆ แล้ว คือการบริหารความเสี่ยง บริหารหน้าตัก เพื่อจำกัดการขาดทุน ไม่ให้ overtrade มากเกินไป บริหารเงินให้ทำงานได้เต็มที่ เช่น Trade ไม้แรก 70% ถ้าเกิดมันลง ก็จะขาดทุนในฐานทุนที่ 70% และ ถ้าเกิดสัญญาณ ชัวว่าขึ้นค่อยเพิ่มไม้สองอีก 30% แต่ถ้าในเคสเรา เล่นแค่ 3 ตัว แต่ขึ้น 2 อีกตัวลง หรือ นิ่ง ก็มาเติ่มเฉพาะ 2 ตัวที่ขึ้น ใน เรท 50:50 จากเดิม 30:30:30(กรณีขึ้นทั้ง3ตัว)
คือเราเอาเงินที่สำรองไว้สำหร้บแต่ละตัว มาลงในตัวที่ขึ้นจริง
ในเคสขาดทุนเราเอาเงินที่สำรองไว้ 20% มาเติ่มไม้ 70% ให้ยังคงเทนดใน70% ได้อยู่
ประเภทของMM มีอยู่หลายแบบ
Rule 2% คือ กำหนดว่าขาดทุนได้ ไม่เกิน 2% ของ port การลงทุน และเอา 2%นั้นมากำหนด position sizing ในการเทรด แต่ละครั้ง นิยมใช้ในตลนดที่เล่นเร็ว พวก forex option เพราะเทรดไวย แต่ในตลาดหุ้นยังไม่ค่อยเหมาะ
การเทรดที่ดี คือการเทรด ในขนาดเท่าเดิม ห้ามลดน่าตักเช่น
เรามีเงิน 1M ตีเป็น 100% : 1M1
กำหนด ส่วนสำลอง 20% : 200K
และใช้สำหรับการ Trade 80% : 800K
เทรดหุ้น 3 ตัวแยก Sector  เพื่อกระจายความเสี่ยง 260K : 1 ตัว ตีเป็น 80:20 ใหม่ =208,000:52,000 = เทรด ครั้ง 200K ต่อ 1Set จะวางกี่ไม้แล้วแต่แผน และ มีทัพสำรอง ไว้เติมในกรณีแต่กระจาน
ฐานทุนต่ำกว่า 1 ล้าน
100  >>  80/20
20 % > สำรองไว้สำหรับไม้ 70% เพื่อไม่ให้จำนวนการเทรดต่อครั้งลดลง
80 >100/3 ตัว
  > 70 %ไม้แรก
  > 30 % Case แรก กรณีทุกตัวมีแนวโน้มวิ่ง
  > 50:50 % Case สอง กรณีขึ้นเฉพาะบางตัว
เคสเงินน้อยกว่า ล้าน แบ่ง 2 ถึง 3 ไม้พอ
ขาขึ้น
Sol1 70:30*
Sol2 50:30:20
ขาลง
Sol1 30:70
Sol2 20:30:50*